ประวัติ
มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง
มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึงตั้งอยู่เลขที่
๔๖ หมู่ ๓ ต.จอมบึง อ.จอมบึง จ.ราชบุรีได้เริ่มก่อตั้งเมื่อวันที่ ๑ มีนาคม ๒๔๙๗ เดิมมีชื่อว่า”วิทยาลัยหมู่บ้านจอมบึง”(Chombueng
Village Institute) โดยก่อตั้งเป็นสถานศึกษาตามแนวคิด
"วิทยาลัยหมู่บ้าน"ของประเทศตุรกีมีจุดมุ่งหมายในการก่อตั้ง
๔ ประการคือ
๑. เพื่อ
แก้ปัญหาการขาดแคลนครูในชนบทที่ต้องการพัฒนา โดยคัดเลือกนักเรียนในท้อง
ถิ่นทุรกันดารเข้าศึกษาเป็นอันดับแรกเมื่อศึกษาสำเร็จแล้วให้กลับไปพัฒนา
ท้องถิ่นของตน
๒. เพื่อปลูกฝังนักศึกษาครูให้รักอาชีพครูโดยผ่านการศึกษาเล่าเรียนและฝึกงานหลายแบบ เพื่อนำความรู้ความชำนาญไปลงมือปฏิบัติได้
๓.
เพื่อให้นักศึกษาครูรู้จักปฏิบัติตนในการเข้าสังคมโดยอยู่ร่วมกันแบบประชาธิปไตยคือการเคารพนับถือกันช่วยเหลือเกื้อกูลกันมีสติ
๔. เพื่อ
ให้เป็นศูนย์กลางการศึกษาในท้องถิ่นใกล้เคียง ในระยะแรกวิทยาลัยหมู่บ้าน จอมบึงได้เปิดสอนหลักสูตร ๕ ปี โดยรับนักศึกษาทุนจากถิ่นทุรกันดารจากทั่ว
ประเทศซึ่งสำเร็จชั้นประถมศึกษาปีที่ ๗
เข้าเรียนเมื่อสำเร็จแล้วจะได้รับวุฒิประกาศนียบัตรวิชาการศึกษา
--- ๑ ตุลาคม ๒๕๑๓ ---
กระทรวง ศึกษาธิการได้ประกาศยกฐานะวิทยาลัยหมู่บ้านจอมบึงเป็นวิทยาลัยครูหมู่บ้าน
จอมบึงและได้มีการรับนักศึกษาทั่วไปที่สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาปี ที่ ๓ เข้าเรียนหลักสูตร ๒ ปี
เมื่อสำเร็จแล้วได้วุฒิประกาศนีย บัตรวิชาการศึกษาอีกส่วนหนึ่งด้วย
ในปีเดียวกันนี้วิทยาลัยครูหมู่บ้าน
จอมบึงยังได้เริ่มเปิดสอนระดับประกาศนียบัตรวิชาการศึกษาชั้นสูงโดยรับผู้สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลายและประกาศนียบัตรวิชาการศึกษาหรือเทียบเท่า
เข้าเรียนหลักสูตร ๒ ปี
--- พ.ศ.๒๕๒๑ ---
วิทยาลัย
ครูหมู่บ้านจอมบึงได้เริ่มเปิดสอนระดับปริญญาตรีตามหลักสูตรสภาการฝึกหัดครู
ในระยะแรกได้เปิดสอนหลักสูตรปริญญาตรี ๒ ปี โดยรับนักศึกษาที่สำเร็จ
ประกาศนียบัตรวิชาการศึกษาชั้นสูงหรือเทียบเท่าเข้าเรียนในปีเดียว
กันนั้นวิทยาลัยได้เริ่มปิดสอนตามโครงการการศึกษาอบรมครูและบุคลากรทางการ
ศึกษาประจำการ(อคป.)ซึ่งเป็นโครงการร่วมมือกันระหว่างกรมการฝึกหัด
ครูและหน่วยงานผู้ใช้ครู โดยมุ่งที่จะพัฒนาวิทยฐานะครูให้สามารถปฏิบัติ
หน้าที่ของตนอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ครูและบุคลากรทางการศึกษาที่เข้า
รับการอบรมตามโครงการนี้จะได้รับการศึกษาอบรมตามหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาการศึกษาชั้นสูงและหลักสูตรปริญญาตรี
๒ ปี
อนึ่ง
เนื่อง
จากความเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจส่งผลทำให้วิทยาลัยไม่สามารถที่จะรับนักศึกษา
ทุนในอัตราวงเงินเท่าเดิม (๒,๕๐๐ บาท/คน/ปี)ได้
ด้วยความเห็นชอบของกรมการฝึกหัดครูจึงได้เลิกรับนักศึกษาทุน
ในปีการศึกษา ๒๕๒๑ นั่นเอง
--- พ.ศ.๒๕๒๒ ---
วิทยาลัยได้เปิดสอนระดับประกาศนียบัตรวิชาการศึกษาทั้งนี้เพื่อสนองนโยบายของกรมการฝึกหัดครูและเนื่องจากความต้องการครูระดับนี้น้อยลง
--- พ.ศ.๒๕๒๓ ---
วิทยาลัย
ได้เริ่มเปิดสอนระดับปริญญาตรีหลักสูตร ๔ ปี ตามหลักสูตรของสภาการฝึกหัดครูโดยรับผู้สำเร็จขั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย
หรือเทียบเท่าเข้าเรียน เมื่อสำเร็จแล้วจะได้รับวุฒิปริญญาครุศาสตร์บัณฑิต
เช่นเดียวกับนักศึกษาระดับปริญญาตรีทั่วไป
--- พ.ศ.๒๕๒๖ ---
วิทยาลัย
ได้เริ่มเปิดสอนหลักสูตรเทคนิคการอาชีพตามหลักสูตรสภาการฝึกหัดครู พ.ศ. ๒๕๑๙ เพิ่มพ.ศ. ๒๕๒๕ โดยรับนักศึกษาที่สำเร็จชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายเข้าเรียนในภาคสมทบ
เมื่อ สำเร็จแล้วจะได้รับวุฒิประกาศนียบัตรวิชาการศึกษาชั้นสูง
อย่างไรก็ตาม วิทยาลัยเปิด สอนนักศึกษาภาคสมทบได้เพียงรุ่นเดียวก็มิได้เปิดอีก
--- พ.ศ.๒๕๒๗ ---
วิทยาลัย
ได้เปิดสอนเทคนิคการอาชีพสำหรับนักศึกษาภาคปกติ ผู้สำเร็จการศึกษาจะได้รับ
วุฒิประกาศนียบัตรวิชาการศึกษาชั้นสูงวิทยาลัยเปิด
สอนหลักสูตรนี้เพียงรุ่นเดียวเท่านั้น
--- พ.ศ.๒๕๒๘ ---
วิทยาลัย ได้เริ่มเปิดสอนระดับอนุปริญญาทางวิทยาศาสตร์และทางศิลปศาสตร์ตามหลักสูตร
ของสภาการฝึกหัดครู พ.ศ.๒๕๒๘ โดยรับนักศึกษาที่สำเร็จชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายเข้า
เรียน ๒ ปี เมื่อสำเร็จแล้วจะได้รับวุฒิอนุปริญญาทางวิทยาศาสตร์หรืออนุ
ปริญญาทางศิลปศาสตร์ในปีเดียวกันนี้วิทยาลัยได้ปฏิบัติตามนโยบายของกรมการ
ฝึกหัดครูคืองดรับนักศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาการศึกษาชั้นสูงและ
งดสอนตามโครงการ อคป.และได้เริ่มเปิดสอนตามโครงการการจัดการศึกษาสำหรับ
บุคลากรประจำการ(กศ.บป.)
--- พ.ศ.๒๕๓๐ ---
วิทยาลัยได้ขยายการเปิดสอนสาขาวิชาการอื่นจากระดับอนุปริญญาไปจนถึงระดับปริญญาตรี สำหรับสายวิชาชีพครูก็ยังคงเปิดสอนตามปกติ
--- พ.ศ.๒๕๓๑ - พ.ศ.๒๕๓๔ ---
วิทยาลัย
ได้ปฏิบัติตามนโยบายของกรมการฝึกหัดครู เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของ ประเทศคือการลดปริมาณการผลิตบัณฑิตระดับปริญญาสายวิชาชีพครูลงและเพิ่ม
ปริมาณการผลิตบัณฑิตระดับปริญญาและนักศึกษาระดับอนุปริญญาสาขา
วิชาการอื่นให้มากขึ้นในหลายๆสาขาวิชา พ.ศ.๒๕๒๘
วิทยาลัยครูหมู่บ้านจอมบึงได้รวมกลุ่มกับวิทยาลัยครูภาคตะวันตก ๔ แห่งได้แก่
วิทยาลัยครูเพชรบุรี วิทยาลัยครูหมู่บ้านจอมบึง
วิทยาลัย ครูกาญจนบุรี วิทยาลัยครูนครปฐมและเรียกการรวมตัวครั้งนี้ว่า
"สหวิทยาลัย ทวารวดี"ปีการศึกษา๒๕๓๐ วิทยาลัยครูหมู่บ้านจอมบึงได้เปิดสอนนัก
ศึกษาโครงการคุรุทายาทซึ่งเป็นโครงการร่วมระหว่างสำนักงานการประถมศึกษาแห่ง
ชาติกับกรมการฝึกหัดครู ให้เรียนในระดับปริญญาตรี
โปรแกรมวิชาการศึกษาปฐมวัยและโปรแกรมวิชาการประถมศึกษา ต่อมาในปีการ ศึกษา ๒๕๒๔
กรมสามัญได้เข้าร่วมโครงการนี้วิทยาลัยได้รับการคัดเลือกให้สอน
นักศึกษาคุรุทายาทสายมัธยมศึกษา โปรแกรมวิชาคณิตศาสตร์
เกษตรศาสตร์และอุตสาหกรรมศิลป์(สาขาก่อสร้างและอิเล็คทรอนิกส์)
--- ปีการศึกษา ๒๕๓๕ ---
ได้
เปิดสอนนักศึกษาคุรุฑายาทสายประถมศึกษาโปรแกรมวิชาวิทยาศาสตร์ทั่วไปและสาย
มัธยมศึกษาโปรแกรมวิชาดนตรีการผลิตบัณฑิตในช่วงปี ๒๕๓๕ - ๒๕๓๙ ได้วางแผนให้สอด
คล้องกับนโยบายในแผนการพัฒนาการศึกษาระยะที่ ๗ ในกรอบและทิศทางของกรมการ
ฝึกหัดครูที่เน้นให้วิทยาลัยครูเป็นสถาบันอุดมศึกษาเพื่อพัฒนาท้องถิ่นโดย
ผลิตบัณฑิตในสาขาวิชาการศึกษาสาขาวิชาศิลปศาสตร์และสาขาวิชาวิทยาศาสตร์
เป็นสัดส่วน ๔๐: ๓๐:๓๐ ตามลำดับ
เนื่อง จากปัจจุบันวิทยาลัยครูเป็นสถาบันการศึกษาและวิจัยผลิตบัณฑิตในสาขา
ต่างๆ ได้แก่ครุศาสตร์บัณฑิต
วิทยาศาสตร์บัณฑิตและศิลปศาสตร์บัณฑิต แต่
บุคคลทั่วไปยังเข้าใจผิดว่าที่จบจากวิทยาลัยครูต้องประกอบอาชีพครู
เท่านั้นทำให้ผู้ที่จบการศึกษาในสาขาอื่น ขาดโอกาสในการหางานทำและในบาง
ครั้งเกิดความเข้าใจผิดคิดว่า“วิทยาลัยครู” มิได้เป็นสถาบันอุดม
ศึกษาเพื่อให้เกิดความเข้าใจถูกต้องและเกิดประโยชน์แก่นักศึกษา
กระทรวง
ศึกษาธิการได้นำความกราบบังคมทูลพระกรุณาทราบฝ่าละอองธุลีพระบาทแล้วทรงพระ
กรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานชื่อ “สถาบันราชภัฏ”แก่วิทยาลัยครูเมื่อวัน ที่ ๑๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๓๕ และเมื่อวันที่ ๗ ธันวาคม
๒๕๓๗ สภาผู้แทนราษฎร์ได้ ให้ความเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.
สถาบันราชภัฏและวุฒิสภาได้ให้ความเห็นชอบ ลงวันที่ ๑๖ ธันวาคม ๒๕๓๗
ต่อมาเมื่อวันที่ ๒๔ มกราคม ๒๕๓๘
ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาฉบับกฤษฎีกาโดยนายชวน หลีกภัยนายกรัฐมนตรี เป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการและมีผลบังคับใช้ในวันที่
๒๕ มกราคม ๒๕๓๘
--- ปีการศึกษา ๒๕๓๙ และ ๒๕๔๐ ---
สภา ประจำสถาบันราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง
คณะกรรมการบริหารมหาวิทยาลัย อาจารย์ นักศึกษา
และบุคลากรในท้องถิ่นได้ร่วมกันร่างคำปณิธานของมหาวิทยาลัยเพื่อใช้เป็น ปรัชญาและแนวทางในการดำเนินงานของมหาวิทยาลัย
--- ปีการศึกษา ๒๕๔๒ ---
อาจารย์
และข้าราชการของมหาวิทยาลัยได้ร่วมกันจัดทำแผนกลยุทธ์ของมหาวิทยาลัยซึ่งได้
ผ่านความเห็นชอบจากสภาประจำมหาวิทยาลัยเพื่อใช้เป็นแผนและเป้าหมายที่ชัดเจน
ในการพัฒนามหาวิทยาลัยในระยะ ๔ ปี (พ.ศ.๒๕๔๓-๒๕๔๖)
--- ปีการศึกษา ๒๕๔๗ ---
พระ บาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ
ทรงลงพระปรมาภิไธยในพระ ราชบัญญัติมหาวิทยาลัยราชภัฏ พ.ศ.๒๕๔๗ เมื่อวันที่ ๙ มิถุนายน ๒๕๔๗
ซึ่งได้ลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาเล่ม ๑ ตอนที่พิเศษ ๒๓ก
เมื่อวันที่ ๑๔ มิถุนายน ๒๕๔๗
มีผลให้สถาบันราชภัฏ ทุกแห่งเปลี่ยนสถานภาพเป็นมหาวิทยาลัยราชภัฏตั้งแต่วันที่๑๕
มิถุนายน ๒๕๔๗ เป็น ต้นไป สถาบันราชภัฏหมู่บ้านจอมบึงจึงมีชื่อใหม่เป็น
มหาวิทยาลัยราชภัฏ หมู่บ้านจอมบึง ตามพระราชบัญญัตินั้นเป็นต้นมา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น